- โดยพื้นฐานของ Spread ทั้ง debit และ credit จะเป็น Passive Strategy แปลว่า ผู้ที่เทรด ต้องถือจนหมดอายุสัญญาถึงจะได้กำไรสูงสุด ขายระหว่างนั้นได้แต่จะกำไรน้อยกว่าเราคาดไว้ (Max Profit)
- Spread นั้นจะมี Theta เป็นบวก แปลว่ายิ่งวันผ่านไปจะทำให้กำไรเราเพิ่มมากขึ้น (Time Decay Friendly)
- ข้อดี เราไม่ต้องเก็งว่าราคาหุ้นต้องไปไกลแค่ไหน ถึงเป้าเท่าไหร่ เราต้องการเพียงให้ราคาหุ้นอยู่เหนือระดับราคาที่เราเก็งไว้ ณ วันที่สัญญาหมดอายุ
- ยิ่งมีความน่าจะเป็นที่จะถูกต้องสูง (เป็น Out-the-money อยู่แล้ว ณ ตอนที่เปิด position) อัตราผลตอบแทนจะยิ่งน้อย เข้าใกล้ 0% (แต่มีโอกาสถูกต้องมากกว่า)
- กลับกัน ถ้าความน่าจะเป็นที่จะถูกต้องน้อย (เป็น In-the-money) อัตราผลตอบแทนจะสูงขึ้น เพราะเป็นการเก็งว่าราคาหุ้นต้องเคลื่อนที่มาอยู่ใน profit level ณ วันที่ option นั้นหมดอายุ
- Spread นั้นจะมี Theta เป็นบวก แปลว่ายิ่งวันผ่านไปจะทำให้กำไรเราเพิ่มมากขึ้น (Time Decay Friendly)
- ข้อดี เราไม่ต้องเก็งว่าราคาหุ้นต้องไปไกลแค่ไหน ถึงเป้าเท่าไหร่ เราต้องการเพียงให้ราคาหุ้นอยู่เหนือระดับราคาที่เราเก็งไว้ ณ วันที่สัญญาหมดอายุ
- ยิ่งมีความน่าจะเป็นที่จะถูกต้องสูง (เป็น Out-the-money อยู่แล้ว ณ ตอนที่เปิด position) อัตราผลตอบแทนจะยิ่งน้อย เข้าใกล้ 0% (แต่มีโอกาสถูกต้องมากกว่า)
- กลับกัน ถ้าความน่าจะเป็นที่จะถูกต้องน้อย (เป็น In-the-money) อัตราผลตอบแทนจะสูงขึ้น เพราะเป็นการเก็งว่าราคาหุ้นต้องเคลื่อนที่มาอยู่ใน profit level ณ วันที่ option นั้นหมดอายุ
Bull Put Spread (Bullish Strategy)
Bear Call Spread (Bearish Strategy)
No comments:
Post a Comment