Monday, March 31, 2014
Bull Put Spread / Bear Call Spread ตัวอย่างการเลือก Strike (ฝั่งขา short) ที่ต่างกัน ในสัญญาเดือนเดียวกัน มาดูกันว่าระดับ strike ต่างๆ ให้ผลตอบแทนเป็นเช่นไรบ้าง
- โดยพื้นฐานของ Spread ทั้ง debit และ credit จะเป็น Passive Strategy แปลว่า ผู้ที่เทรด ต้องถือจนหมดอายุสัญญาถึงจะได้กำไรสูงสุด ขายระหว่างนั้นได้แต่จะกำไรน้อยกว่าเราคาดไว้ (Max Profit)
- Spread นั้นจะมี Theta เป็นบวก แปลว่ายิ่งวันผ่านไปจะทำให้กำไรเราเพิ่มมากขึ้น (Time Decay Friendly)
- ข้อดี เราไม่ต้องเก็งว่าราคาหุ้นต้องไปไกลแค่ไหน ถึงเป้าเท่าไหร่ เราต้องการเพียงให้ราคาหุ้นอยู่เหนือระดับราคาที่เราเก็งไว้ ณ วันที่สัญญาหมดอายุ
- ยิ่งมีความน่าจะเป็นที่จะถูกต้องสูง (เป็น Out-the-money อยู่แล้ว ณ ตอนที่เปิด position) อัตราผลตอบแทนจะยิ่งน้อย เข้าใกล้ 0% (แต่มีโอกาสถูกต้องมากกว่า)
- กลับกัน ถ้าความน่าจะเป็นที่จะถูกต้องน้อย (เป็น In-the-money) อัตราผลตอบแทนจะสูงขึ้น เพราะเป็นการเก็งว่าราคาหุ้นต้องเคลื่อนที่มาอยู่ใน profit level ณ วันที่ option นั้นหมดอายุ
- Spread นั้นจะมี Theta เป็นบวก แปลว่ายิ่งวันผ่านไปจะทำให้กำไรเราเพิ่มมากขึ้น (Time Decay Friendly)
- ข้อดี เราไม่ต้องเก็งว่าราคาหุ้นต้องไปไกลแค่ไหน ถึงเป้าเท่าไหร่ เราต้องการเพียงให้ราคาหุ้นอยู่เหนือระดับราคาที่เราเก็งไว้ ณ วันที่สัญญาหมดอายุ
- ยิ่งมีความน่าจะเป็นที่จะถูกต้องสูง (เป็น Out-the-money อยู่แล้ว ณ ตอนที่เปิด position) อัตราผลตอบแทนจะยิ่งน้อย เข้าใกล้ 0% (แต่มีโอกาสถูกต้องมากกว่า)
- กลับกัน ถ้าความน่าจะเป็นที่จะถูกต้องน้อย (เป็น In-the-money) อัตราผลตอบแทนจะสูงขึ้น เพราะเป็นการเก็งว่าราคาหุ้นต้องเคลื่อนที่มาอยู่ใน profit level ณ วันที่ option นั้นหมดอายุ
Bull Put Spread (Bullish Strategy)
Bear Call Spread (Bearish Strategy)
Thursday, March 27, 2014
Tuesday, March 25, 2014
Monday, March 24, 2014
Tuesday, March 18, 2014
Monday, March 17, 2014
Friday, March 14, 2014
Friday, March 7, 2014
Thursday, March 6, 2014
Subscribe to:
Posts (Atom)