Sunday, September 29, 2013
Tuesday, September 24, 2013
Monday, September 16, 2013
Friday, September 13, 2013
Wednesday, September 11, 2013
Tuesday, September 10, 2013
Monday, September 9, 2013
Congrats to our 999 members (almost ^ ^) for Inter Trade fb group and 11,111 KonHinN blog visits. So,I'm gonna launch a mini series: NDT (Non-Directional Trade) to introduce you the other ways of trading options. Starting with NDT #1 Options Spread.
มีเพื่อนๆหลายคน เคยถามผมถึงการเทรด Options ซึ่งไม่มีทิศทางของตลาดมาเกี่ยวข้องว่าทำกันอย่าง
ไร เนื่องจาก NDT หรือ Non-Directional Trade จะเกี่ยวข้องกับการทำ Options Spread ซึ่งจำเป็นต้องมีความรู้พื้นฐาน Options เพื่อที่จะเข้าใจโครงสร้างและ profitable zone วันนี้ผมเลยจะมาเกริ่นเบื่องต้นเกี่ยวกับ Options Spread ซึ่งเป็นส่วนประกอบของ NDT เกือบทุกชนิดครับ
Options Spread แบ่งได้เบื้องต้น 2 ประเภท คือ
1. Call Spread
- การ Buy Call Spread คือการ long 1 Call (lower strike) + short 1 Call (higher strike)
Ex. Buy 1 Call Spread AAPL Sep 550/560
= long 1 AAPL Sep 550 call & short 1 AAPL Sep 560 call
- ตรงกันข้าม Sell Call Spread คือการ short 1 Call (lower strike) + long 1 Call (higher strike)
Ex. Sell 1 Call Spread AAPL Sep 550/560
= short 1 AAPL Sep 550 call & long 1 AAPL Sep 560 call
2. Put Spread
- การ Buy Put Spread คือการ long 1 Put (higher strike) + short 1 Put (lower strike)
Ex. Buy 1 Put Spread AAPL Sep 550/560
= short 1 AAPL Sep 550 put & long 1 AAPL Sep 560 put
- ตรงกันข้าม Sell Put Spread คือการ short 1 Put (higher strike) + call 1 Put (lower strike)
Ex. Sell 1 Put Spread AAPL Sep 550/560
= long 1 AAPL Sep 550 put & short 1 AAPL Sep 560 put
Profit/Loss ของ Options Spread
กรณี Buy Call หรือ Put Spread
Maximum Profit = ความกว้างของ spread (higher strike - lower strike) หักออกด้วย Net Debit
ส่วน Maximum Loss = Net Debit ที่จ่ายไปครั้งแรกนั่นเอง
กรณี Sell Call หรือ Put Spread จะกลับกัน
Maximum Profit = Net Credit ที่รับมาตั้งแต่ตอนแรก
ส่วน Maximum Loss = ความกว้างของ spread (higher strike - lower strike) หักออกด้วย Net Credit
Ex. AAPL Sep 550 Call, AAPL Sep 560 Call มี premium = 9,3 ตามลำดับ
จำนวนเงินที่ต้องจ่ายเพื่อ Buy 1 AAPL Call Spread Sep 550/560 = 9 - 3 = 6(Net Debit) หรือ $600 ต่อ 1 call spread
Maximum Profit = (560-550) - 6 = 10-6 = 4 หรือ $400 ต่อ 1 call spread
Maximum Loss = 6 หรือ $600 ต่อ 1 call spread
โดยที่เราจะได้ Maximum Profit ก็ต่อเมื่อราคา AAPL มากกว่า 550 ณ วันที่หมดอายุ (ในที่นี้คือ 2013.9.20)
กลับกันถ้าราคา AAPL ต่ำกว่า 550 เทรดนี้จะเป็น Maximum Loss
สรุป โดยลำพัง Call Spread หรือ Put Spread จะยังคงเป็น Directional Trade เพราะยังคงต้อง bias ว่าราคาของ underlying จะ ขึ้น(bullish) หรือ ลง(bearish) จากปัจจุบัน แต่เพียง profit/loss diagram จะแตกต่างจากการ Buy Call หรือ Buy Put เพียงขาเดียว
ปล. คราวหน้าผมจะเริ่มพูดถึง Advance Spread ต่างๆ ที่เป็น NDT นะครับ ;) Trade at your own risk ppl !!!
ไร เนื่องจาก NDT หรือ Non-Directional Trade จะเกี่ยวข้องกับการทำ Options Spread ซึ่งจำเป็นต้องมีความรู้พื้นฐาน Options เพื่อที่จะเข้าใจโครงสร้างและ profitable zone วันนี้ผมเลยจะมาเกริ่นเบื่องต้นเกี่ยวกับ Options Spread ซึ่งเป็นส่วนประกอบของ NDT เกือบทุกชนิดครับ
Options Spread แบ่งได้เบื้องต้น 2 ประเภท คือ
1. Call Spread
- การ Buy Call Spread คือการ long 1 Call (lower strike) + short 1 Call (higher strike)
Ex. Buy 1 Call Spread AAPL Sep 550/560
= long 1 AAPL Sep 550 call & short 1 AAPL Sep 560 call
- ตรงกันข้าม Sell Call Spread คือการ short 1 Call (lower strike) + long 1 Call (higher strike)
Ex. Sell 1 Call Spread AAPL Sep 550/560
= short 1 AAPL Sep 550 call & long 1 AAPL Sep 560 call
2. Put Spread
- การ Buy Put Spread คือการ long 1 Put (higher strike) + short 1 Put (lower strike)
Ex. Buy 1 Put Spread AAPL Sep 550/560
= short 1 AAPL Sep 550 put & long 1 AAPL Sep 560 put
- ตรงกันข้าม Sell Put Spread คือการ short 1 Put (higher strike) + call 1 Put (lower strike)
Ex. Sell 1 Put Spread AAPL Sep 550/560
= long 1 AAPL Sep 550 put & short 1 AAPL Sep 560 put
Profit/Loss ของ Options Spread
กรณี Buy Call หรือ Put Spread
Maximum Profit = ความกว้างของ spread (higher strike - lower strike) หักออกด้วย Net Debit
ส่วน Maximum Loss = Net Debit ที่จ่ายไปครั้งแรกนั่นเอง
กรณี Sell Call หรือ Put Spread จะกลับกัน
Maximum Profit = Net Credit ที่รับมาตั้งแต่ตอนแรก
ส่วน Maximum Loss = ความกว้างของ spread (higher strike - lower strike) หักออกด้วย Net Credit
Ex. AAPL Sep 550 Call, AAPL Sep 560 Call มี premium = 9,3 ตามลำดับ
จำนวนเงินที่ต้องจ่ายเพื่อ Buy 1 AAPL Call Spread Sep 550/560 = 9 - 3 = 6(Net Debit) หรือ $600 ต่อ 1 call spread
Maximum Profit = (560-550) - 6 = 10-6 = 4 หรือ $400 ต่อ 1 call spread
Maximum Loss = 6 หรือ $600 ต่อ 1 call spread
โดยที่เราจะได้ Maximum Profit ก็ต่อเมื่อราคา AAPL มากกว่า 550 ณ วันที่หมดอายุ (ในที่นี้คือ 2013.9.20)
กลับกันถ้าราคา AAPL ต่ำกว่า 550 เทรดนี้จะเป็น Maximum Loss
จากตัวอย่าง เราจะเลือก strategy นี้ คือเราคาดการณ์ว่าราคา AAPL จะขึ้นจากราคาปัจจุบันและจะมากกว่า 550 ณ วันที่ 2013.09.20 (Moderate Bullish)
ซึ่งในทางปฏิบัติแล้ว การ Buy AAPL Call Spread Sep 550/560 หรือ Sell AAPL Put Spread Sep 550/560 จะให้ Profit/Loss ที่เหมือนกันเกือบ 100% ต่างกันตรงที่ราคา Bid Ask ที่อาจจะไม่เหมือนกันของ call และ put spread ตอน execute order
ซึ่งในทางปฏิบัติแล้ว การ Buy AAPL Call Spread Sep 550/560 หรือ Sell AAPL Put Spread Sep 550/560 จะให้ Profit/Loss ที่เหมือนกันเกือบ 100% ต่างกันตรงที่ราคา Bid Ask ที่อาจจะไม่เหมือนกันของ call และ put spread ตอน execute order
สรุป โดยลำพัง Call Spread หรือ Put Spread จะยังคงเป็น Directional Trade เพราะยังคงต้อง bias ว่าราคาของ underlying จะ ขึ้น(bullish) หรือ ลง(bearish) จากปัจจุบัน แต่เพียง profit/loss diagram จะแตกต่างจากการ Buy Call หรือ Buy Put เพียงขาเดียว
ปล. คราวหน้าผมจะเริ่มพูดถึง Advance Spread ต่างๆ ที่เป็น NDT นะครับ ;) Trade at your own risk ppl !!!
Wednesday, September 4, 2013
Subscribe to:
Posts (Atom)